วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555

"โอบามา"เรียกร้องผู้นำทั่วโลกยุติความรุนแรง-ยับยั้งนิวเคลียร์อิหร่าน


ประธานาธิบดีบารัก โอบามาแห่งสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์เป็นเวลา 30 นาที ในที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 67 ซึ่งมีผู้นำและตัวแทนจาก 193 ประเทศเข้าร่วม

เขาเรียกร้องผู้นำโลกให้แสดงการต่อต้านความเชื่อคตินิยมสุดขีด ในการกล่าวสุนทรพจน์  ในการเปิดประชุมสมัชชาใหญ่องค์การสหประชาชาติ  ในนครนิวยอร์ค เมื่อวันที่ (25 ก.ย.)


นายโอบามากล่าวว่า นี่ถือเป็นพันธะสัญญาของผู้นำทุกคนที่จะแสดงความเห็นแย้งต่อความรุนแรงและคตินิยมสุดขีด โดยการกล่วอ้างถึงทูตสหรัฐฯประจำลิเบีย ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุประท้วงต่อต้านหนังหมิ่นศาสนาอิสลาม และเน้นย้ำว่าสหรัฐฯจะไม่ยินยอมให้อิหร่านพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และจะทำทุกวิถีทางเพื่อหยุดยั้งรัฐบาลอิหร่านในการได้มาซึ่งอาวุธนิวเคลียร์

 นายโอบามายังประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากวิดีโอหนังหมิ่นอิสลามว่าเป็นการทำลายความเป็นอุดมการณ์ของสหประชาชาติ โดยเขากล่าวอ้างถึงเจ้าหน้าที่ทางการทูตและเอกอัคราชทูตสหรัฐที่เสียชีวิตภายในสถานกงสุลเมืองเบงกาซี เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 

พร้อมท้าทายยูเอ็นให้แสดงความมั่นใจว่า อนาคตของทุกคนจะต้องถูกกำหนดโดยคนเช่นนานคริสโตเฟอร์ สตีเวนส์ มิใช่คนที่สังหารเขา และถึงเวลาแล้วที่จะทำให้คนที่ใช้ความรุนแรงเป็นหลักปฏิบัติทางการเมืองหมดความสำคัญ ซึ่งเป็นการเมืองที่จะทำให้เราทุกคนยากที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งที่เราต้องทำร่วมกัน ทั้งการให้การศึกษาแก่เด็กๆ การสร้างโอกาสที่เราทุกคนสมควรได้รับ ปกป้องสิทธิมนุษยชน และสร้างพันธะสัญญาต่อความเป็นประชาธิปไตย

ขณะที่ชีค อามีร์ ฮาหมัด บิน คาลิฟา อัล-ธานีแห่งกาตาร์ กล่าวว่า คณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น ล้มเหลวต่อการยุติวิกฤต ซึ่งหมายถึงโอกาสที่ดีที่ชาติหรับจะสามารถเข้าแทรกแซงในซีเรีย

ขณะเดียวกันประธานาธิบดีโมฮัมเหม็ด มอร์ซี ผู้นำคนใหม่ของอียิปต์ กล่าวว่า  เสรีภาพในการแสดงออกต้องมีความรับผิดชอบด้วย  ส่วนประธานาธิบดีซูซิโล บัมบัง ยุดโดโยโน ผู้นำอินโดนีเซีย ประเทศที่มีประชากรมุสลิมมากที่สุดในโลก กล่าวเรียกร้องให้จัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อป้องกันไม่ให้มีการดูหมิ่นหรือโจมตีศาสนาต่าง ๆ

ขอบคุณที่มา : http://www.matichon.co.th/